AEC Blueprint


การรวมกลุํมทางเศรษฐกิจ (Economic Integration) ภายในปี 2558 ของประชาคมอาเซียนนั้น ถือเป็นพัฒนาการของการรวมกลุํมทางเศรษฐกิจที่ก๎าวข๎ามสหภาพทางภาษีศุลกากร (Custom Union) มาเป็นตลาดรํวม (Common Market) ถือวำ มีลักษณะเฉพาะหรืออัตลักษณ์ของการรวมกลุํมทางเศรษฐกิจของภูมิภาคนี้ ลัดขั้นตอนของการพัฒนาสูํ การรวมกลุํมทางเศรษฐกิจอยำงเป็นขั้นเป็นตอน
ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนจึงมีลักษณะที่เป็นตลาดรํวม (Common Market) ทางเศรษฐกิจที่ไมํสมบูรณ์นักเมื่อเทียบกับอียู มีความชัดเจนมากขึ้นตามลาดับวำ ระบบเศรษฐกิจโลกจะมีการเคลื่อนย๎ายศูนย์กลางมายังเอเชียมากขึ้นตามลาดับ ขณะที่ประเทศตำงๆ จะเดินหน๎าเปิดเสรีมากขึ้นเรื่อยๆ ภาวะไร๎พรมแดนจะเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทั่วไปในศตวรรษที่ 21 จะเกิดการรวมกลุํมทางเศรษฐกิจขนาดใหญํสามกลุํม คือ การรวมกลุํมทางเศรษฐกิจในภูมิเอเชียตะวันออก การรวมกลุํมทางเศรษฐกิจในทวีปอเมริกา การรวมกลุํมทางเศรษฐกิจในยุโรป ขณะที่มนุษยชาติต๎องเผชิญปัญหาในระดับภูมิภาคและระดับโลกที่เป็นปัญหารํวมกันมากขึ้น โดยเฉพาะภัยพิบัติทางธรรมชาติและภาวะโลกร๎อน
กลุํมประเทศอาเซียนได๎จัดทา แผนงานในเชิงบูรณาการในด๎านเศรษฐกิจ ตำงๆ หรือ พิมพ์เขียวเพื่อจัดตั้งประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC Blueprint) โดยมีองค์ประกอบที่สาคัญ 4 เรื่อง ดังนี้
1. การเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว จะนาไปสูํการใช๎กฎระเบียบการค๎าในประเทศสมาชิกทั้งหมดเป็นอยำงเดียวกัน (Harmonization of Rules and Regulations) ทั้งในด๎านมาตรฐาน คุณภาพ ราคา อัตราภาษี รวมถึงกฎระเบียบในการซื้อขาย การขจัดมาตรการและข๎อกีดกันตำงๆ รวมถึงการมีมาตรการอานวยความสะดวกทางการค๎า เงื่อนไขการเคลื่อนย๎ายบุคคลสัญชาติอาเซียน และประเภทบริการและการลงทุนที่เสรีมากขึ้น
2. การสร๎างอาเซียนให๎เป็นภูมิภาคที่มีขีดความสามารถในการแขํงขันสูง (Highly Competitive Economic Region) ในเวทีการค๎าโลก ได๎แกํ การพัฒนาโครงสร๎างพื้นฐาน โทรคมนาคม การเงินการธนาคาร การจัดระบบการค๎าให๎มีการแขํงขันที่เป็นธรรม และการคุ๎มครองทรัพย์สินทางปัญญา เป็นต๎น
3. การพัฒนาทางเศรษฐกิจอยำงเทำเทียมกันระหวำงสมาชิกอาเซียน โดยพัฒนา SMEs และเสริมสร๎างขีดความสามารถผำนโครงการความรํวมมือตำงๆ เชํน โครงการริเริ่มเพื่อการรวมกลุํมของอาเซียน (Initiative for ASEAN Integration : IAI) ในการลดชํองวำงการพัฒนาเศรษฐกิจของแตํละประเทศสมาชิก
4. การเชื่อมโยงของอาเซียนเข๎ากับเศรษฐกิจโลก ด๎วยการเน๎นและปรับประสานนโยบายเศรษฐกิจอาเซียนกับประเทศนอกภูมิภาค ให๎มีทำทีรํวมกัน โดยการจัดทาเขตการค๎าเสรีอาเซียนกับประเทศคูํเจรจาตำงๆ เพื่อให๎เครือขำยการผลิต/จาหนำยภายในอาเซียนเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจสํวนอื่นของโลก
อีกทั้งให๎มีการเรํงรัดการดาเนินงานรวมกลุํมทางเศรษฐกิจในกลุํมอาเซียน ทางด๎านการค๎า การบริการ การลงทุน แรงงาน และเงินทุน โดยมีสาระสาคัญดังนี้
1. ด๎านสินค๎า : มุํงลดภาษีสินค๎าของประเทศสมาชิกเดิมให๎เป็น 0% ภายในปี 2553 (ค.ศ. 2010) และมุํงลดภาษีสินค๎าของประเทศสมาชิกใหมํ ปี 2558 (ค.ศ. 2015) รวมทั้ง ยกเลิกมาตรการ (Non-Tariff Barriers : NTBs) โดยเร็ว ตลอดจนปรับปรุงกฎวำด๎วยแหลํงกาเนิดสินค๎า (Rules of Origin : ROO) และใช๎พิกัดอัตราศุลกากรที่สอดคล๎องกัน
2. ด๎านบริการ : ยกเลิกข๎อจากัดในการประกอบการด๎านการค๎าบริการในอาเซียน ภายในปี 2563 (ค.ศ. 2020)
3. ด๎านการลงทุน : เปิดให๎มีการลงทุนเสรีในอาเซียนและให๎ปฏิบัติตํอนักลงทุนอาเซียนเปรียบเสมือนนักลงทุนในประเทศ ภายในปี 2553 (ค.ศ. 2010)
4. ด๎านแรงงาน : ให๎แรงงานฝีมือ สามารถเคลื่อนย๎ายภายในอาเซียนได๎อยำงเสรี
5. ด๎านเงินทุน : มุํงให๎มีการไหลเวียนของเงินทุนที่เสรีมากขึ้น และเรํงรัดการเปิดเสรีการค๎าสินค๎าและบริการให๎เห็นผลชัดเจนขึ้น
ทางคณะเศรษฐศาสตร์และศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจเพื่อการปฏิรูป ม. รังสิต ได๎จัดสัมมนาทางวิชาการไปเมื่อวันที่ 19 เม.ย. 2555 พบวำ มีโอกาสมากมายสาหรับประเทศไทยพร๎อมทั้งความเสี่ยงและความท๎าทายจานวนมาก ขณะเดียวกัน เราอาจยังไมํมีนโยบายและยุทธศาสตร์ประชาคมเศรษฐกิจที่ชัดเจนนัก ควรเรํงจัดทาขึ้น หากเราดาเนินยุทธศาสตร์ที่ดี เชื่อวำ เราจะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของอาเซียนอยำงแนํนอน เพราะเรามีความได๎เปรียบอยำงยิ่งในแงํที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
ภาคการค๎าธุรกิจอุตสาหกรรมทั่วไป ไมํเป็นหํวงนัก แตํที่นำหํวง คือ ภาคแรงงาน ภาคบริการโดยเฉพาะภาคการเงิน กลำวถึง การเปิดเสรีการค๎าบริการ อาเซียนได๎เริ่มเปิดเสรีการค๎าบริการภายใต๎กรอบความตกลงด๎านการค๎าบริการ (ASEAN Framework Agreement on Services : AFAS) ในปี พ.ศ. 2539 เพื่อขจัดอุปสรรคหรือข๎อจากัดด๎านการค๎าบริการระหวำงกันภายในอาเซียนสาหรับการเปิดเสรีด๎านบริการ แม๎วำสิงคโปร์มีศักยภาพในด๎านบริการสูงที่สุดในอาเซียน และนำจะได๎ประโยชน์มากที่สุดจากการเปิดเสรีด๎านบริการ เนื่องจากสิงคโปร์มีความพร๎อมทั้งทางด๎านโครงสร๎างพื้นฐานและเทคโนโลยี อยำงไรก็ตามไทยยังคงมีความได๎เปรียบในบางสาขา เชํน การทํองเที่ยว ด๎านการแพทย์และบริการด๎านสุขภาพ ดังนั้น การเปิดเสรีด๎านบริการจะสํงผลให๎การแขํงขันในภาคบริการรุนแรงขึ้น ซึ่งจะชํวยพัฒนาและเพิ่มบทบาทของภาคบริการให๎เข๎ามามีสํวนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมากขึ้น
การเปิดเสรีการค๎าบริการภายใต๎ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนนั้น มีเป้าหมาย คือ ลดอุปสรรคในการเข๎าสูํตลาดในด๎านตำงๆ ลง และเพิ่มสัดสํวนการถือหุ๎นให๎กับบุคคล/นิติบุคคลสัญชาติอาเซียน ดังนี้
(1) สาขาบริการสาคัญ (Priority Integration Sectors: PIS) ได๎แกํ สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ สาขาสุขภาพ สาขาการทํองเที่ยว และสาขาโลจิสติกส์
(2) สาขาบริการอื่น (Non-Priority Services Sector) ครอบคลุมบริการทุกสาขา นอกเหนือจากสาขาบริการสาคัญ (priority services sectors) และการบริการด๎านการเงิน ที่กาหนดเป้าหมายการเปิดเสรีภายในปี 2558 (ค.ศ. 2015) ทั้งนี้ สามารถยกเว๎นสาขาที่อํอนไหวได๎
สาหรับสถานะลำสุด อาเซียนได๎ดาเนินการเจรจาลดข๎อจากัดด๎านการค๎าบริการระหวำงกันและจัดทาข๎อผูกพันเปิดตลาดมาแล๎วทั้งสิ้นรวม 7 ชุด โดยได๎ลงนามพิธีสารอนุวัติข๎อผูกพันการเปิดตลาดการค๎าบริการ ชุดที่ 7 ไปเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2552 ซึ่งในสํวนของไทยได๎ผูกพันเปิดตลาดทั้งหมด 143 รายการ ครอบคลุมสาขาบริการหลัก อาทิเชํน บริการธุรกิจ (เชํน วิชาชีพวิศวกรรม สถาปัตยกรรม และบัญชี เป็นต๎น) คอมพิวเตอร์และการสื่อสาร การกํอสร๎าง การจัดจาหนำย (เชํน บริการค๎าสํงเครื่องกีฬา และบริการแฟรนไชส์ เป็นต๎น) การศึกษาในทุกระดับ บริการด๎านสุขภาพ บริการสิ่งแวดล๎อม และบริการทํองเที่ยว เป็นต๎น อยำงไรก็ดี ไทยยังคงสงวนเงื่อนไขตำงๆ ที่เป็นไปตามกรอบกฎหมายไทย เชํน อนุญาตให๎ตำงชาติจากประเทศสมาชิกอาเซียนมีสิทธิถือหุ๎นในนิติบุคคลที่เข๎ามาประกอบธุรกิจในประเทศไทยได๎ไมํเกินร๎อยละ 49 ขณะนี้ อาเซียนอยูํระหวำงการเจรจาจัดทาข๎อผูกพันเปิดตลาดชุดที่ 8 ซึ่งมีกาหนดแล๎วเสร็จในปี 2553 และยังคงต๎องเจรจาเพื่อทยอยเปิดเสรีสาขาบริการอื่นๆ เพิ่มเติมจนบรรลุเป้าหมายการเปิดเสรีอยำงครบถ๎วน ในปี 2558 (ค.ศ. 2015)
(3) สาขาการบริการด๎านการเงิน จะทยอยเปิดเสรีตามลาดับอยำงเป็นขั้นเป็นตอน เพื่อรักษาไว๎ซึ่งความ มั่นคงทางการเงิน เศรษฐกิจและสังคม โดยประเทศที่มีความพร๎อมสามารถเริ่มดาเนินการเปิดเสรีภายในปี 2558 (ค.ศ. 2015) ในสาขาที่ระบุไว๎กํอน และประเทศสมาชิกที่เหลือสามารถเข๎ารํวมในภายหลัง
ในสํวนของภาคบริการทางการเงินนั้นเห็นชัดวำ จะยังไมํได๎เปิดเสรีอยำงเต็มที่ในปี พ.ศ. 2558 ขณะที่ความแข็งแกรํงและความพร๎อมของธุรกิจอุตสาหกรรมการเงินการธนาคารของไทยนั้นอยูํในอันดับ 3 รองจากสิงคโปร์และมาเลเซีย เทำนั้น

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น